kk 1 - 10 เรื่องสำคัญวัน 'อภิวัฒน์สยาม' 24 มิถุนายน 2475

24 มิถุนายน 2475 “อภิวัฒน์สยาม” วันสำคัญแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และสถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ

ครบรอบ 89 ปี “อภิวัฒน์ไทย” ในวันที่ 24 มิถานายน 2475 เยี่ยมในวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองไทย โดยเกิดเหตุการณ์สำคัญเป็น การเปลี่ยนแปลงการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ รวมทั้งตั้งระบบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ โดยกรุ๊ป “ภาควิชาชาวเมือง” ซึ่งนับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีผลมาถึงเวลานี้
แม้ว่า “วันอภิวัฒน์ไทย” ไม่ค่อยถูกจำมากสักเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อื่นๆแต่หากมองในมุมความน่าดึงดูดใจที่คนไทยควรทราบ คงจะไม่ผิดหากจะบอกว่าวัน “อภิวัฒน์ประเทศไทย” น่าดึงดูดไม่แพ้วันสำคัญอื่นๆเลย กรุงเทพยดาธุรกิจออนไลน์ จะพาไปดู 10 หัวข้อสำคัญเกี่ยวกับวันอภิวัฒน์ไทย 2475 ที่คุณอาจไม่เคยทราบมาก่อน!
1. “วันอภิวัฒน์ประเทศไทย” กำเนิดในสมัยรัชกาลที่ 7
เรื่องราววันอภิวัฒน์ไทย 24 มิถานายน 2475 เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 โดยระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นนั้น ท่านได้เสด็จแปรพระราชฐานประทับอยู่ที่พระราชสำนักไกลตระหนก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในคืนวันที่ 25 มิถานายน พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 เสด็จกลับเมืองหลวงโดยรถไฟพระที่นั่งพื้นที่แผนกพยาบาลเมืองหลวงข้างทหารส่งไปรับ
ถัดมาในวันที่ 26 มิถานายน พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ให้บุคคลสำคัญของภาควิชาชาวเมืองเข้าเฝ้าและก็ท่านได้ทรงลงพระปรมาธิปไธยพระราชกำหนดนิรโทษกรรมแก่แผนกผู้กระทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน
ในวันที่ 27 มิถานายน พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัวได้พระราชทาน พ.ร.บ.กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดินประเทศไทยชั่วครั้งชั่วคราวให้เป็นข้อตกลงการปกครองประเทศชั่วครั้งชั่วคราวไปก่อน
2. “ภาควิชาประชาชน” เป็นผู้ใด?
ภาควิชาชาวเมือง เป็นกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์สำหรับในการเปลี่ยนระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สู่การตั้งระบบประชาธิปไตยที่มีพระกษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งนับว่าเป็นนโยบายทางด้านการเมืองแบบใหม่ในตอนนั้น
เดิมกรุ๊ปแผนกชาวเมืองตั้งจากกรุ๊ปนักเรียนไทยในประเทศประเทศฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ.2467 โดยมีผู้ร่วมเข้าการประชุม อาทิเช่น หลังจากนั้นกรรมวิธีการหาสมาชิกเพิ่มของกรุ๊ปแผนกชาวเมืองก็ได้ขยายขอบเขตการเข้ามาถึงกรุ๊ปนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และก็ในปี พ.ศ. 2475 ก็เลยทำอภิวัฒน์ระบบการปกครอง โดยมี พันเอกพระยาพหลพลหมู่เสนา เป็นหัวหน้าผู้ก่อตั้งภาควิชาพยาบาลเมืองหลวงข้างทหาร ที่มีนายทหารระดับนายพันเอก 3 คนคือพระยาพหลพลหมู่เสนา พระยาทรงสุรเดชะ รวมทั้งพระยาฤทธิอัคเนย์ ควบคุมการอภิวัฒน์
ดังต่อไปนี้ในกรุ๊ปภาควิชาชาวเมืองก็ไม่ได้มีแม้กระนั้นเด็กนักเรียนนอก แม้กระนั้นยังมีทั้งยังกรุ๊ปนักเรียนในประเทศ เจ้าหน้าที่รัฐ และก็กรุ๊ปข้าราชการอื่นๆอีก เนื่องมาจากความนึกคิดประเด็นการเปลี่ยนการปกครองเป็นความคิดที่แพร่หลายอยู่ในกรุ๊ปสังคมหลายกรุ๊ป อาทิเช่น นักข่าว คนเขียน ผู้มีการเล่าเรียน อาจารย์ ชนชั้นกลางในเมือง พ่อค้า รวมทั้งเจ้าของกิจการรายย่อย
3. สาเหตุที่ทำให้เกิดการ “อภิวัฒน์ไทย”
เหตุด้านสถาบันการเมือง ที่มีการผูกขาดรวมศูนย์อำนาจในกรุ๊ปนายจ้างรวมทั้งเจ้าขุนมูลนายชั้นสูง จนถึงการจัดการราชการแผ่นดินชักช้ารวมทั้งขาดความรู้ความเข้าใจ บวกกับความไม่เป็นธรรมในระบบราชการ
สาเหตุด้านอุดมการณ์ ที่มีการแพร่หลายของแนวคิดใหม่ๆทำให้คนเดินดินกำเนิดจิตสำนึกตื่นตัว และก็อยากได้แลเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์ระบบประชาธิปไตยรวมทั้งชาตินิยมของคนธรรมดา ซึ่งท้าทายอุดมการณ์แบบจารีตที่ย้ำเทือกเถาเหล่ากอ บุญบารมี รวมทั้งความไม่เสมอทางชนชั้น
ปัจจัยด้านการก่อตัวของชนชั้นใหม่ ที่มีการเติบโตของชนชั้นเจ้าหน้าที่รัฐแบบใหม่ ชนชั้นกลาง บัณฑิต เด็กนักเรียนนอก เด็กนักเรียนใน คนทำข่าว พ่อค้า และก็วิชาชีพสมัยใหม่ สาเหตุจากการเปิดประเทศและก็เปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ ตลอดมาจนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ 5 กลุ่มชนใหม่ๆพวกนี้มาพร้อมกับความสำนึกใฝ่หาความอิสระ ความนำสมัย รวมทั้งความเสมอภาคเสมอภาค
เหตุด้านเศรษฐกิจ เช่น วิกฤติการเงินตกทอดมาจากสมัยรัชกาลที่ 6 บวกกับวิกฤติเศรษฐกิจโลกในตอนปี 2472-2475 รัฐบาลตกลงใจขจัดปัญหานี้โดยการจัดทำงบประมาณเสียดุลรวมทั้งปรับเจ้าหน้าที่รัฐชั้นตรงกลางรวมทั้งด้านล่างออกหลายระลอก (แต่ปกป้องรักษาผู้ดีรวมทั้งเจ้าขุนมูลนาย) ขึ้นภาษีรายได้กระทบคนชั้นตรงกลางและก็ประชาชน สร้างความทุกข์ร้อนให้กับคนระดับล่าง จนถึงกำเนิดกระแสไม่ชอบใจต่อรัฐบาล
เหตุสภาพแวดล้อมข้างนอก ที่เกิดการล่มสลายของระบอบราชาธิปไตยทั้งโลก ไล่มาตั้งแต่จีน รัสเซีย เยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี
4. “อภิวัฒน์ไทย 2475” แบ่งเป็น 2 ระลอก
ความโกลาหลข้างหลังการอภิวัฒน์ 2475 ระลอกเด็กอ่อนจากข้างเจ้าขุนมูลนายเก่าที่อยากได้เปลี่ยนระบอบรัฐธรรมนูญรวมทั้งยื้อแย่งอำนาจกลับคืนจากแผนกชาวเมืองไปสู่กรุ๊ปตน จนถึงทำให้ระบบประชาธิปไตยสภานิติบัญญัติหยุดชะงัก
และก็ระลอก 2 เป็นการเปลี่ยนแปลง 2476 ของพระยามโนปกรณ์นิติผู้สรรค์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระหว่างข้างภาควิชาประชาชนที่อยากได้พิทักษ์รักษามรดกของการอภิวัฒน์ กับข้างเจ้าขุนมูลนายอนุรักษนิยมที่อยากได้ทำลายภาควิชาประชาชนรวมทั้งเปลี่ยนระบบประชาธิปไตยที่มีการแยกอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญกลับไปสู่ระบอบครึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์
5. เป็นชนวนให้กำเนิดกบฏบวรเดชะ
เรื่องราวของการอภิวัฒน์ไทยระลอก 2 เป็นชนวนรวมทั้งส่งผลให้เกิด กบฏบวรอำนาจ เป็นความอุตสาหะก่อการรัฐประหารด้วยกำลังอาวุธเพื่อโค่นอำนาจรัฐบาลของแผนกประชาชนในปี 2476 ในชื่อจัดการอย่างเป็นทางการว่า แผนกกู้บ้านกู้เมือง
ภาควิชากู้บ้านกู้เมือง ประกอบไปด้วยนายจ้างรวมทั้งเจ้าขุนมูลนายที่สวามิภักดิ์ต่อกษัตริย์ในระบอบราชาธิปไตย อาทิเช่น พระวรวงศ์เธอ ท่านเจ้าบวรเดชะ ซึ่งเป็นหัวหน้าในการกบฏคราวนั้น ได้ยื่นคำขาดแก่รัฐบาลแผนกประชาชนให้ใช้การดูแลในรูปแบบของระบอบราชาธิปไตย โดยใช้กำลังทหารจากหัวเมืองอย่างใหญ่โตหลัก จนถึงมีการปะทะกันในตุลาคม 2476
6. ผลพวงภายหลังมีการ “อภิวัฒน์ไทย”
ทางด้านการเมือง มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจ ตั้งการปกครองโดยรัฐธรรมนูญที่มีการแบ่งอำนาจเป็นสามข้าง (นิติบัญญัติ บริหาร รวมทั้งตุลาการ) มีการสร้างสถาบันทางการเมืองใหม่ อย่างเช่น สภานิติบัญญัติ คณะรัฐมนตรี สโมสรการบ้านการเรือน กลุ่มผลประโยชน์วิชาชีพ การเลือกตั้ง ฯลฯ ที่เปิดให้คนคนใหม่รวมทั้งคนเดินดินเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้อำนาจสาธารณะมากขึ้นเรื่อยๆ
เว้นแต่ยังมีการกระจายอำนาจสู่ชายแดน การขยายระบบราชการและก็ปรับการทำงาน อีกทั้งมีการเปลี่ยนแปลงระบบข้อกำหนด มีการปรับปรุงข้อสัญญาที่เสียเปรียบกับต่างแดน ทำให้ประเทศมีเอกราชที่บริบูรณ์
ด้านสังคม มีการจัดระบบการศึกษาเล่าเรียน ระบบการแพทย์และก็สาธารณสุข ระบบขนส่งที่ทันสมัยให้ครอบคลุมรวมทั้งเท่าเทียมมากขึ้นเรื่อยๆโดยรัฐบาลดำเนินหน้าที่หน้าที่แบบเมืองสมัยใหม่เยอะขึ้น หมั่นเพียรหาผลิตภัณฑ์และก็บริการสาธารณะให้ถึงมือพสกนิกร มีการขยายตัวของโรงเรียนและก็มหาวิทยาลัย โรงหมอทั้งยังในรวมทั้งนอกจ.กรุงเทพฯ และก็ถนนหนทางเชื่อมต่อการเดินทางและก็ขนส่งสินค้า คนเดินดินได้ช่องในการเลื่อนชั้นด้านสังคมเยอะขึ้น
ทางด้านเศรษฐกิจ เมืองเข้าไปมีหน้าที่มากยิ่งขึ้นในการกำหนดนโยบายรวมทั้งเปลี่ยนแปลงระบบธุรกิจรวมทั้งการลงทุนในภาคทำการกสิกรรม บริการ รวมทั้งอุตสาหกรรม มีการวางส่วนประกอบเบื้องต้นต่างๆขึ้นมารองรับระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ เข้าไปหางานและก็สนับสนุนอาชีพต่างๆ

• ติดเชื้อ ‘วัววิดวันนี้’ จังหวัดสมุทรสาครพื้นที่สีแดง พบรายใหม่ 259 ราย
• ยืดขณะ ‘โคกหนองที่นา โมเดล’ อีก 2 เดือน ข้างหลังพบขัดข้องหลายปัญหา
• ‘WHART’จ่อเพิ่มทุนครั้งที่ 6 ไม่เกิน 5.55 พันล้าน ชูความรู้ความเข้าใจเงินบนทำเลดีเยี่ยมโลจิสจิกส์
7. อิทธิพลจากกระแสการบ้านการเรือนโลก
การอภิวัฒน์ประเทศไทยที่เกิดขึ้นในตอนปี พ.ศ. 2475 นั้น ได้รับอิทธิพลมาจากกระแสการบ้านการเรือนโลกตั้งแต่ข้างหลัง พ.ศ. 2465 ที่มีการพังทลายของสมบูรณาญาสิทธิราชย์ทั่วทั้งโลก ประเทศมหาอำนาจที่เคยดูแลแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี รัสเซีย รวมทั้งประเทศตุรกี ต่างก็ถูกโค่นลงทุกประเทศ ส่วนประเทศที่ยังมีระบอบกษัตริย์ในยุโรปต่างก็แปลงเป็นระบอบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ มีรัฐธรรมนูญรวมทั้งสภานิติบัญญัติจากการเลือกตั้ง แปลงเป็นการปรากฏปกติของตอนนั้นไปโดยปริยาย

8. รัฐธรรมนูญในตอนแรกของไทยข้างหลัง “อภิวัฒน์ไทย”
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรวมทั้งแผนกประชาชนได้เริ่มจัดการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับแรกแก่ราษฎร พ.ร.บ.กฎหมายธรรมนูญชั่วครั้งคราวมีการลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 มิถานายน พ.ศ. 2475 นับได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทย
“ระบบประชาธิปไตย
ตอนลำดับที่สอง : เป็นพักๆที่พสกนิกรหลายชิ้นยังขาดวิชาความรู้ จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักระบบประชาธิปไตยและก็การเลือกตั้ง สภานิติบัญญัติถูกเปลี่ยนแปลงให้จำเป็นต้องมีสมาชิกที่ได้รับการแต่งอยู่ครึ่งหนึ่ง และก็อีกครึ่งหนึ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาตามแบบระบบประชาธิปไตยทางอ้อม แม้กระนั้นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งจำเป็นจะต้องได้รับการสำรวจจากแผนกประชาชนก่อนการออกเสียงทุกหน
ตอนลำดับที่สาม : พ.ร.บ.กฎหมายธรรมนูญกฎระเบียบว่าการเป็นตัวแทนระบบประชาธิปไตยสุดกำลังในสภานิติบัญญัตินั้นจะบรรลุได้เฉพาะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วสิบปีหรือมวลชนมากยิ่งกว่าครึ่งหนึ่งสำเร็จการศึกษาเกินกว่าระดับประถมศึกษา สุดแต่ว่าแบบไหนจะกำเนิดก่อน
9. มรดกภาควิชาประชาชน
มรดกทางวัฒนธรรมของแผนกประชาชน มีอีกทั้งศิลปวัตถุและก็สถาปัตยกรรม