“เรือใบสีฟ้า” แม้ว่าจะเข้ารอบไปสุดแท้แต่เกมนี้จัดกองทัพใหญ่บุกมาโหมใส่เจ้าถิ่น ปอร์โต้ แบบไม่ยั้งมือ ก่อนจะทำอะไรกันมิได้ จบแบบไร้สกอร์ 0-0 ทั้งที่ กาเบรียล เชซุส ยิงเข้าไปสุดแท้แต่โดน VAR ยึดสกอร์คืน นำมาซึ่งการทำให้ ปอร์โต้ ได้แต้มสำคัญยืนยันตามแมนฯสิตี้ เข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ต่อไป
ครึ่งแรก ช่องทางลุ้นของ “เรือใบสีฟ้า” จำต้องคอยถึงนาที 22 ข้างหลัง ฟิล โฟเด้น แทงบอลให้ เฟร์ราน โคนร์เรส หลุดเข้าไปยิงติดบล็อคของ อกุสติน มาร์เคสิน นายด่านเจ้าถิ่นที่ออกมาเร็ว แต่ทว่าจังหวะนี้ โคนร์เรส ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมแทบหาช่องทางยิงจะๆมิได้เลยสักหนึ่งครั้ง นาที 35 ทีมเยือนอาจได้ได้ลุ้นขึ้นนำอีก จังหวะนี้เป็น ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้ยงตัดเข้ากึ่งกลางแล้วเปิดแบบครึ่งหนึ่งยิงครึ่งหนึ่งผ่าน บอลพุ่งจะเลยเส้นประตูอยู่สุดแท้แต่ ยังไปติดแนวรับปอร์โต้จัดการออกมาเฉียด
“เรือใบสีฟ้า” เจาะไม่เข้าจำต้องลุ้นจากนอกกรอบ นาที 43 เฟร์ราน โคนร์เรส ทดลองซัดด้วยขวานอกกรอบแม้กระนั้นบอลก็เหินออกไปไกล
จบครึ่งแรกจำพวกยังยิงกันไม่ตรงกรอบ ปอร์โต้ ยังเสมอกับ แมนฯสิตี้ 0-0
กลับมาบู๊ต่อในครึ่งหลัง นาที 51 เจ้าบ้านได้ลุ้นจากจังหวะยิงไกลของ แซร์โจ้ โอลิเวยร่า นอกกรอบบอลพุ่งแรงแม้กระนั้นยังไปตรงตัว เอแดร์ชอน โมราเอส ซึ่งนับเป็นช่องทางยิงเข้ากรอบหนแรกของเกมนี้อีกด้วย
นาที 54 “เรือใบสีฟ้า” ได้ฟรีคิกหน้ากรอบกว่า 25 หลา ก่อนจะเป็น โอเล็กซานเดร์ สินเชนเก๋ รับหน้าที่วิ่งมาปั่นข้ามกำแพงแม้กระนั้นบอลยังพุ่งไปเข้าซองของ มาร์เคสิน
นาที 59 ผู้ร่วมทีมของ เป๊ป ปลดปล่อยนาทีทองขึ้นนำหลุดไปอีกข้างหลัง ราฮีม สเตอร์ลิง เอาชนะ มาล็องก์ ซาร์ หลุดเข้าไปดวลลำพังแม้กระนั้นยิงไปติดตัวของ อกุสติน มาร์เคสิน
นาที 70 แมนฯสิตี้ พลาดขึ้นนำอีกข้างหลัง ราฮีม สเตอร์ลิง ตวัดยิงเสาแรกบอลผ่านมือ มาร์เคสิน ไปเสาสอง โรดรี้ มานะพุ่งชาร์จแม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นเกี่ยวบอลมาให้ เฟร์ราน โคนร์เรส ซัดด้วยขวาจ่อๆไปติดมือนายด่านปอร์โต้อย่างเกินจริง
ทัพเรือใบยังโหมบุกอย่างหนัก นาที 76 ชูเอา กานเซโล่ ครอสไปให้ กางร์นาร์โด สิลวา กดด้วยซ้ายเน้นๆบอลพุ่งไปติดเซฟของ อกุสติน มาร์เคสิน ออกข้างหลัง
แม้กระนั้นแล้ว นาที 81 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่ายบอลเข้าซุกก้นตาข่ายข้างหลัง กางร์นาร์โด สิลวา เปิดด้วยซ้ายไปให้ กาเบรียล เชซุส ผู้เล่นสำรองที่พึ่งจะลงมาโขกไปติดมือ มาร์เคสิน ก่อนจะตามซ้ำเข้าไปง่ายๆแต่ทว่าผู้ตัดสินได้รับสัญญาณจากห้อง VAR ว่าเป็นจังหวะที่ ชูเอา กานเซโล่ ล้ำหน้าไปก่อนทำให้ชวดได้ประตูขึ้นนำ
จบเกม ปอร์โต้ เปิดบ้านเสมอกับ แมนฯสิตี้ แบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งแต้มกันไปนำมาซึ่งการทำให้ ปอร์โต้ ตาม “เรือใบสีฟ้า” ที่เป็นแชมป์กลุ่มเข้ารอบไปเล่นในรอบ 16 ทีมในที่สุดแน่ๆแล้ว
รายนามผู้เล่นทั้งสองทีม
ปอร์โต้ (5-3-2) : อกุสติน มาร์เคสิน – วิลชอน มานาฟา (นานู น.72), มาล็องก์ ซาร์, ดีโอเก๋ ไลเต้,เฉลียงเซล เอ็มเบ็มบ้า, ไซดู ซานูซี่ – มาเตอุส อูริเบ, โอตาวิโอ (ฟาบิโอ วิเอ่ยร่า น.87), แซร์โจ้ โอลิเวยร่า – เฮซุส โกโรน่า (หลุยส์ ดิอ๊าส น.63), มุสซ่า มาเรก้า (เอวานิลสัน น.73)
ผู้ฝึกสอน : แซร์โจ้ คอนไซเซา
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ชอน โมราเอส – ชูเอา กานเซโล่, เอริค การ์เซีย, รูเบน ดิอ๊าซ, โอเล็กซานเดร์ สินเชนเก๋ – โรดรี เอร์นานเดซ, แฟร์นันดินโญ่, ฟิล โฟเด้น – กางร์นาร์โด้ สิลวา, เฟร์ราน โคนร์เรส (กาเบรียล เชซุส น.71), ราฮีม สเตอร์ลิง