ศบค. ยืนยันสะกัดกันโควิดสายพันธุ์อินเดีย อย่างเข้มข้น อนุมัติชะลอการเดินทางเข้าไทยจากประเทศต้นทาง อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ เพิ่มมาตรการกักบริเวณ 224 ชั่วโมงด้วย
เมื่อเวลา 22.20 น. วันที่ 25 เม.ย. สำนักพิธีกร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แจกแจงว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสโคโรท้องนา 2019 ศบค. ได้แจกแจงเสริมเติมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สามัญชน ต่อกรณีข่าวว่ามีเครื่องบินเช่าเหมาลำของคนแขกเดินทางมายังประเทศไทย ว่าไม่เป็นความจริง รัฐบาลดำเนินนโยบายเข้มข้นด้วยความระแวดระวังเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคผ่านทุกวิถีทางเพื่อคุ้มครองป้องกันการเล็ดลอดของเชื้อ แล้วก็ได้ชะลอการยื่นขอใบอนุมัติเดินทางเข้าประเทศ (COE – Certificate of Entry) ของคนต่างประเทศที่มุ่งหมายเดินทางมาจากประเทศอินเดียออกไปก่อน จะรับเพียงแต่คนประเทศไทยที่มุ่งหมายเดินทางกลับไปอยู่บ้านแล้วก็ได้ลงทะเบียนไว้แค่นั้น
ส่วนกรณีคนแขก ปริมาณ 7 คน ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่นั้น เดินทางเข้าประเทศไทยโดยสายการบินการซื้อขาย เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2564 สายการบินอินเดียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ AI 0332 ตามข้อกำหนดอนุญาต (บุคคล 11 กลุ่ม) ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุน นักธุรกิจ มีครอบครัวไทย มีใบอนุมัติปฏิบัติงาน แล้วก็เข้ามารักษา (กรณีไม่ใช่โรคโควิด) ฯลฯ โดยในเที่ยวบินดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว มีผู้โดยสารทั้งหมดทั้งปวงปริมาณ 149 คน เป็นคนอินเดีย คนประเทศไทย แล้วก็เชื้อชาติอื่นๆจึงไม่ใช่เครื่องเช่าเหมาลำตามข่าวอะไร โดยช่วงนี้ทั้งปวงยังอยู่ในช่วงกักกันโรค แล้วก็กำลังอยู่ในช่วงการตรวจค้นเชื้อเป็นช่วงๆเพื่อไม่ให้ผู้ติดเชื้อโรคเล็ดลอดออกไปได้ สำหรับ 7 รายข้างต้น เมื่อเดินทางมาถึงไทย ตรวจเจอเชื้อ จึงส่งเข้ารักษาที่รพ. ตามมาตรการที่กำหนดไว้
ดังนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่สำหรับการอนุญาตเครื่องบินเช่าเหมาลำทำการบินเข้าประเทศไทยยังชี้แจ้ง ปฏิเสธกระแสข่าวที่มีคนมั่งคั่งคนแขกเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหนีจากสถานการณ์โรคโควิดระบาด โดยใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำมาที่ประเทศไทย โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ส่วนทัพอากาศที่จัดเครื่องบินไปรับแผนกของผู้ช่วยทูตทหารจากประเทศอินเดียกลับไทยปัจจุบันนี้ ผู้ที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยจะต้องปฏิบัติงานตามมาตรการด้วยเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น เพื่อปรับกฎข้อบังคับให้เป็นไปตามสถานการณ์แล้วก็เพื่อควบคุมสะกัดกันเชื้อโควิด 19 จากอินเดีย ศปก.ศบค. อนุมัติการรอการเดินทางเข้าประเทศไทยจากประเทศต้นทาง คือ อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ และเพิ่มมาตรการการกักตัวเป็น 224 ชั่วโมง อีกด้วย
ดังนี้รัฐบาล ขอให้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่าการปฏิบัติงานต่างๆเพื่อยั้งการแพร่ระบาด ยกตัวอย่างเช่น กระบวนการเข้าเมือง การ Quarantine แล้วก็ตรวจค้นเชื้อ ยังคงปฏิบัติงานตามมาตรการอย่างเข้มข้น เพื่อคุ้มครองป้องกันการนำเข้าเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์ที่ระบาดในอินเดีย ที่จะทำให้สถานการณ์ในประเทศแย่ลง แล้วก็ส่งผลต่อสมรรถนะของวัคซีนให้น้อยลง ตามที่ ศาสตราจารย์ นพ ยง ภู่วรวรรณะ ได้ให้ข้อมูลไว้ด้วย และ ไม่มีการให้สิทธิพิเศษแก่คนใดกัน อย่างแน่นอน ชีวิตแล้วก็ความปลอดภัยของคนประเทศไทย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลจะต้องดูแลแล้วก็คุ้มครองป้องกัน
