“ลุงพล” เปิดใจตื่นเช้ามาขอพรพระหวัง “ทนายอนันต์ชัย” รับทำคดี “น้องชมพู่” แต่สุดท้ายไม่เป็นดังหวัง พร้อมเล่าสิ่งคาใจก่อนเดินทางออกจากบ้านกกกอก
จากกรณี ทนายมากชัย ไชยเดช ทนายความมีชื่อ การันตีไม่รับทำคดีน้องชมพู่ให้ “คุณลุงพล” และ “ป้าแต๋น” พร้อมเปิดเผยเหตุผลว่า เคยเปิดโอกาสแล้ว แต่ว่าเขาไม่เคยให้จิตใจก่อน ดังที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (“ทนายมากชัย” การันตีไม่รับทำคดีให้ “คุณลุงพล” ลั่นเคยเปิดโอกาสแล้ว)
ล่าสุดวันที่ 6 ธ.ค. 2564 ผู้รายงานข่าวรายงานบรรยากาศที่บ้าน นายไชย์พล วิภา หรือ คุณลุงพล ภายหลังที่ ทนายมากชัย ไม่ตอบรับว่าความคดีน้องชมพู่นั้น คุณลุงพลได้ออกมาเปิดใจหน้าศาลพระพรหมที่อยู่รอบๆบ้าน ผ่านช่องยูทูบของตนเอง รวมทั้งมีเหล่ายูทูบเบอร์ ที่ปักหลักติดตามชีวิตคุณลุงพลมากยิ่งกว่า 20 ช่อง ซึ่งระหว่างการเปิดใจนั้น นายไชย์พลมีลีลาขึงขัง พร้อมเปิดเผยว่า ช่วงเช้าตนลุกขึ้นมาไหว้พระขอพร เพื่อให้ได้รับข่าวดีจากการออกข่าวของทนายและอยากได้ยินจากปากของท่านทนายว่า จะรับทำคดีคุณลุงพลกับป้าแต๋นที่บ้านกกกอกหรือไม่
แต่ว่าท้ายที่สุดท่านทนายก็ไม่รับ โดยทนายอ้างเหตุผลว่ามีกลุ่มยูทูบเบอร์บางส่วน ออกมาให้ข้อมูลต่างๆนานา รวมไปถึงเรื่องเงินค่าแรงค่าทนาย 5 ล้านบาท และมีการตั้งกองทุนเพื่อบริจาคค่าทนาย ซึ่งเกี่ยวกับหัวข้อนี้ทางนายไชย์พลก็ได้ตั้งข้อซักถามว่า ยูทูบเบอร์ใครที่เป็นคนนำข้อมูลดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นไปเผยแพร่
ดังนี้ ภายหลังที่คุณลุงพลเปิดใจกับเหล่ายูทูบเบอร์เสร็จ ได้เดินทางขึ้นรถตู้ส่วนตัวเดินทางออกจากบ้านกกกอกพร้อมครอบครัว และมีรถติดตามอีก 1 คัน โดยก่อนที่จะเดินทางป้าแต๋นได้เดินออกมาคุยกับเหล่ายูทูบเบอร์และทักทายกับแขกที่มายอดเยี่ยมหน้าบ้าน
เวลาที่ พระคุณครูพลเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ที่คุณลุงพลเชื่อถือและรอให้คำมาหารือมาตลอด เปิดเผยว่า บากบั่นทาบทามทนายมากชัย ภายหลังที่ทนายตั้มถอนตัว ส่วนตัวเห็นว่าคดีนี้ การที่เราใช้ทนายใหม่มันจะเสียเวล่ำเวลา และเสมือนเริ่มต้นใหม่อีกที ถึงที่มาที่ไปของแนวทางการทำคดี เห็นด้วยว่ากังวลใจเรื่องโซเชียล ที่กระแสมันแรงขึ้นเรื่อยๆและถ้าเกิดทนายคนใหม่ที่จะเข้ามารับทำคดีนี้ ก็จำเป็นต้องจัดการกับบรรดาโซเชียลแบบเดียวกัน.